ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม พระราชทานให้มีการฝึกอบรมโครงการพระราชทาน “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” แก่ผู้ต้องขังที่จะได้รับการพ้นโทษในเรือนจำทั่วประเทศ ได้รับการอบรมและนำกลับไปประยุกต์ใช้ในชีวิวิตประจำวันหลังจากพ้นโทษไปแล้ว ซึ่งโครงการฯ เป็นการให้ความรู้และอบรมระยะสั้นๆเป็นเวลา 14 วันทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฏีใหม่ ในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยสามารถดำเนินการได้ ในทุกๆขั้นตอนของพื้นที่ และเป็นการมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิด ฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติตลอดจนการแก้ปัญหา ในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ต้องขัง สามารถพึ่งพาตนเองได้หลังจากพ้นโทษไปแล้ว
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 มกราคม 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีปิดโครงการฝึกอบรมโครงการพระราชทาน “ โคกหนองนาแห่งน้ำใจ และความหวัง กรมราชทัณฑ์” เรือนจำจังหวัดอ่างทอง พร้อมทั้งมอบประกาศนียบัตร ให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม ในครั้งนี้
โดยมีนายสมยศ โยธินกิจโกศล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง กล่าวรายงานและให้การต้อนรับ ณ บริเวณพื้นที่ลานกิจกรรมภายในเรือนจำจังหวัดอ่างทอง นายสมยศ โยธินกิจโกศล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่าปัจจุบัน การฝึกการอบรมโครงการพระราชทาน ฯ มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม เป็นผู้ต้องขังที่เป็นคนไทย 155 คน และมีชาวต่างชาติ 1 คนรวมทั้งสิ้น 156 คนโดยการฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นเวลา 14 วันระหว่างวันที่ 21 ธ.ค. 63 ถึงวันที่ 3 ม.ค. 64 โดยหลักสูตรแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่
ขั้นที่ 1 เป็นการฝึกอบรมพึ่งตนเองด้วยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
ขั้นที่ 2 การแปลงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง สู่การปฏิบัติ ประกอบด้วย # การออกแบบแนวความคิด การบริหารจัดการพื้นที่ขนาดเล็ก การประยุกต์ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคม # การสร้างพื้นที่จำลอง และวางแผนการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เพื่อพอยู่ พอกิน พอใช้ และพอร่มเย็น # การปฏิบัติในพื้นที่จริง ตามทฤษฎีแบบชาวบ้าน
ขั้นที่ 3 จะเป็นการสรุปและประเมินผลโดยจะมีเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบเป็นระยะๆหลังจากผู้ต้องขังพ้นโทษออกไปใช้ชีวิตตามปกติสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ อีกทั้งยังสามารถช่วยเหลือประชาชน ทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมได้ อันเป็นการสืบสาน พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป