เมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 17 มีนาคม 2564 นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีบวรสรวงพร้อมเปิดงาน “วันมวยไทยนายขนมต้ม ประจำปี 2564” โดยมี นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธุ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิรัติ แข็งขัน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด นายพัฒนพงษ์ พงษ์ทองเจริญ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ดร.ชาญณรงค์ สุหงษา นายกสมาคมสถาบันศิลปะป้องกันตัวแบบไทย หัวหน้าส่วนราชการ สถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย สมาคมครูมวยไทย นักเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประกอบพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของนายขนมต้ม บรมครูแห่งวงการมวยไทย เนื่องในวันที่ระลึกวีระชนไทยนายขนมต้ม ประจำปี 2564 ณ บริเวณสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยภายในงานมีการประกอบพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์ เพื่อเป็นสิริมงคล หลังจากนั้นได้มีการแสดงคีตะมวยไทย การแข่งขันมวยไทยชิงถ้วยนายขนมต้ม การออกร้านค้า การแข่งขันเซปักตะกร้อ และช่วงเย็นจะจัดการแข่งขันชกมวยไทย “ศึกวันมวยไทยนายขนมต้ม” พร้อมชมการชกมวยไทย คู่พิเศษ ระหว่าง “สกัด เพชรยินดี” กับ “เพชรอุทัย โตราชทัณฑ์ยิม” หรือ เพชรอุทัยลูกสระแก้ว เพื่อยกย่อง และส่งเสริมศิลปะป้องกันตัวของไทย อันเป็นมรดกโลกที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของบรรพชนไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่างจากชนชาติอื่น
นายภานุ แย้มศรี กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งเสริมการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของประชาชนในพื้นที่และส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีและเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทยโดยงานวันมวยไทยนายขนมต้ม เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่นายขนมต้ม เป็นนักมวยคาดเชือกชาวกรุงศรีอยุธยา เกิดที่ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เคยถูกจับเป็นเชลยในระหว่างเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในครั้งนั้นพระเจ้ามังระได้สั่งให้เอาตัวนายขนมต้ม มาเปรียบมวยกับนักมวยชาวพม่า ปรากฏว่า นายขนมต้ม สามารถชกเอาชนะนักมวยชาวพม่าได้ถึง 9-10 คน จนได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสรภาพในที่สุด จากเหตุการณ์ ที่นายขนมต้มชกชนะนักมวยพม่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2317 นั้น ชาวไทยจึงได้ถือว่า วันที่ 17 มีนาคมของทุกปี เป็นวันเกียรติประวัติของนักมวยไทย ถือเป็นวันมวยไทย ซึ่งชาวพระนครศรีอยุธยาก็ได้พร้อมใจกันสร้าง “อนุสาวรีย์นายขนมต้ม” ไว้ที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ภาพ/ข่าว สาทร คชวงษ์