อ่างทอง 10กว่าปีไม่คืบหน้าสร้างยูเทิร์นใต้สะพานประชาชนเดือดหวิดรุมประชาทัณฑ์

Share

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 เวลา 10.00 น นายณัฐพร เนียมกลิ่น ผอ.แขวงทางหลวงอ่างทอง พร้อมด้วยนายเอนก จันทร์สมบัติ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอ่างทอง (ฝ่ายปฏิบัติการ)นายเตือนใจ ทรงไตร นายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง นายโชคชัย ทองศักดิ์ ที่ปรึกษานายกฯ และนายพันเรือง สุภาวิมล รองนายก ฯ นายสกล แก้วปวงคำ นายอำเภอเมืองอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้ลงพื้นที่เพื่อเจรจาเรื่องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่มีการเวนคืนที่ดินแล้วจากกรมทางหลวง เพื่อขอใช้พื้นที่และทางสำนักงานแขวงทางหลวงอ่างทอง ได้นำเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรกล เพื่อมาดำเนินการทุบซากตึกที่ยังรื้อถอนไม่หมด เพื่อให้เป็นตามวัตถุประสงค์ของกรมทางหลวง แขวงทางหลวงอ่างทอง ในการที่จะดำเนินการก่อสร้างที่กลับรถ (ยูเทิร์น) บริเวณใต้สะพานแห่งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่ใช้รถในการสัญจรบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 309 โพธิ์พระยา-ท่าเรือ ซึ่งอาคารดังกล่าวตั้งในโฉนดเลขที่  ##@@๘  ซึ่งกรมทางหลวงได้เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน )ไว้ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2548 จำนวน 2 แปลง ซึ่งแปลงแรก เจ้าของโฉนดที่ดินได้ทำการสร้างสิ่งปลูกสร้าง (ตึกแถวอาคารพานิช) ขณะนี้เจ้าของตึกได้ดำเนินการทุบหรือรื้อถอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนที่ดิน โฉนดเลขที่ ##@@๘ ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง ซึ่งก็อยู่ในรัศมีการเวนคืนที่ดินเช่นกัน แต่ทางเจ้าของตึกหรืออาคารแห่งนี้ไม่ดำเนินการรื้อถอนอาคารให้แล้วเสร็จยังคงค้างซากของอาคารไว้ กรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวงอ่างทอง จึงไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ ถึงแม้เจ้าหน้าแขวงทางหลวงอ่างทอง พยายามเจรจาหลายครั้ง ก็ถูกเจ้าของตึกบ่ายเบี่ยงและพยายามขัดขวางเรื่อยมา การเวนคืนที่ดินของโฉนดแปลงนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ด้วยเงินจำนวนกว่า 8 ล้านบาทซึ่งกรมทางหลวงโดยแขวงทางหลวงอ่างทอง จะดำเนินการก่อสร้างทางกลับรถ( ยูเทิร์น )บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตลาด (ทิศตะวันตกของแม่น้ำ )ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองอ่างทอง ที่ผ่านมาประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการกลับรถ ซึ่งต้องขับรถไป เพื่อกลับรถฝั่งตะวันออกของแม่น้ำคือฝั่งศาลากลางจังหวัด อีกทั้งการจราจรจะคับคั่งเนื่องจากไม่มีที่กลับรถดังกล่าว

หลังจากมีการขัดขวาง โดยเอาร่างกายยืนขวางการทำงานของเครื่องจักร (รถ )ไม่ให้เจ้าหน้าของแขวงทางหลวงอ่างทองเข้าไปดำเนินการรื้อถอน(ทุบ )หลังจากนั้นได้มีประชาชนส่งเสียงและจะเข้ารุมประชาทัณฑ์เจ้าของตึกดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รักษาความสงบโดยให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมีเพียงกระทบกระทั่งกัน เท่านั้น

   ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.นายเตือนใจ ทรงไตร นายกเทศมนตรีเมืองอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและแขวงทางหลวง ได้ตกลงร่วมและดำเนินการรื้อถอนทุบตึกและรื้อสิ่งกีดขวางได้สำเร็จ คาดว่าภายในเดือนหน้า (ตุลาคม ) ทางแขวงทางหลวงอ่างทองก็จะรีบเร่งดำเนินการปรับพื้นที่ต่อไป