Type to search

เที่ยวทั่วทิศ

เที่ยวอ่างทองเมืองรองไม่เหมือนใคร (2)

Share

             วันนี้เอาใจสายบุญ เดือนนี้เป็นเดือนแห่งบุญใหญ่หลายคนออกเดินทางทอดกฐิน ตามวัดวาอารามต่างๆมากมาย ชาวพุทธเราถือว่าในหนึ่งปีควรต้องทำบุญใหญ่หนึ่งครั้งนั้นคือ การทอดกฐิน

จังหวัดอ่างทองเป็นเมืองพุทธที่มีวัดวาอารามมากมาย เที่ยวอ่างทองเมืองรองไม่เหมือนใครเดือนนี้จะพาไปไหว้พระ9 วัดดังแห่งเมืองวิเศษชัยชาญ ที่ไม่เหมือนใคร ในทริป 2วันหนึ่งคืน. จะมีอะไรในอำเภอเล็กๆแห่งนี้ตามมาเลย…..

             เส้นทางการเดินทางมาอำเภอวิเศษชัยชาญมาได้หลายเส้นทาง  หากมาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถเดินทางเข้าสู่จังหวัดอ่างทองในระยะทางเพียง 35 กิโลเมตรและเดินทางต่อเข้าสู้อำเภอวิเศษชัยชาญอีกเพียง 10 กิโลเมตร  หากเดินทางมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี สามารถแยกเข้าสู่อำเภอวิเศษชัยชาญได้ในระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร. การเดินทางไม่ยากไม่ลำบากเลยนะคะ

            ทริปนี้เราจะเดินทางจากกรุงเทพฯ มาทางสายเอเชีย ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแยกเข้าจังหวัดอ่างทองและเลยเข้ามาอำเภอวิเศษชัยชาญ จะเห็นความอลังการความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปตั้งตระหง่านกลางทุ่งนาสีเขียวขจีหากท่านมาในเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคมท่านจะพบกับทุ่งนาเหลืองอร่ามงามตาสมคำว่าอ่างทองเลยทีเดียว

           เราจะเริ่มความเป็นสิริมงคลด้วยการไหว้หลวงพ่อใหญ่ ซึ่งมีนามว่า “ พระพุทธมหานวมินทร์ศาก ยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่วัดม่วง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง  ความยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อทำให้ชาวบ้านทั่วไปขนานนามท่านว่า”หลวงพ่อใหญ่”  โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นชั้นๆแบบโครงสร้างตึกสูง 32  ชั้น ก่ออิฐถือปูนฉาบสีทองเหลืองอร่ามงามตาทั้งองค์

         หลวงพ่อเกษมอาจารสุโภฯร่วมกับคณะลูกศิษย์ของท่านมีดำริสร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9  ใช้เวลาสร้างประมาณ 16 ปีเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่กุมภาพันธ์  2550 ความสูงจากฐานถึงยอดองค์พระเกศาวัดได้ 95 เมตรหน้าตักกว้าง 63.05 เมตร

        ทำไมต้องมาสักการะหลวงพ่อใหญ่ ตามตำนานและความเชื่อกล่าวว่า เมื่อไหว้หลวงพ่อแล้วต้องสัมผัสที่ปลายพระหัตถ์ท่านจะประทานพรให้เติบโตในหน้าที่การงานมีอาชีพมั่นคง ร่ำรวยโชคดีเงินทองไหลมาเทมา. เที่ยววัดม่วงไหว้หลวงพ่อใหญ่ไม่เหมือนวัดใดๆตรงที่ทุกท่านสามารถศึกษาประวัติศาสตร์ ศึกษาวรรณคดี มีปริศนาธรรมสั่งสอนเป็นศิลปะปูนปั้นมากมาย ศิลปะไทย จีน สวยงามทุกมุมมอง เมื่อเดินศึกษาภูมิทัศน์และถ่ายรูปภายนอกแล้วเข้ามากราบสรีระของหลวงพ่อเกษมอาจารสุโภ ณ วิหารแก้วกราบขอพรท่านและเกจิดังทั่วประเทศ หลังจากนั้นกราบขอพรพระประทานในอุโบสถตั้งบนกลีบบัวที่สวยงามมาที่อีกแห่งหนึ่ง

       เหนื่อยไหมเพียงวัดแรกก็ไม่เหมือนใครแล้ว ก่อนเดินทางต่อไปหาอาหารอร่อยรองท้องกันเบาๆตามสะดวก ก่อนขึ้นรถเดินทางต่อไปยังวัดที่2 วัดวิเศษชัยชาญซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของวิเศษชัยชาญ มารู้ประวัติกันหน่อยวัดนี้เดิมชื่อ”วัดท่าสุวรรณ” ต่อมาเมื่อ16 มีนาคม 2499 เปลี่ยนเป็นวัดวิเศษไชยชาญ หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนอักขวิธีการเขียนชื่ออีกครั้งให้สอดคล้องกับชื่ออำเภอเป็น”วัดวิเศษชัยชาญ” วันนี้สร้างตั้งแต่ปี 2390  แต่สิ่งก่อสร้างที่เป็นหลักฐานเหลือเพียงเจดีย์เท่านั้น ที่เห็นในปัจจุบันเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ทั้งสิ้น

      ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธประวัติ และภาพข้าศึกฝรั่งขี่ม้า เป็นต้น ด้านข้างอุโบสถมีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง มีวิหารเล็กเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อปรกที่ชาวบ้านเคารพนับถือมายาวนาน ที่สำคัญ ณ บริเวณวัดนี้เป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์นายดอกและนายทองแก้ว วีรชนผู้กล้าแห่งแขวงเมืองวิเศษไชยชาญและศาลาหลวงพ่อธรรมโชติ ที่สำคัญอย่ายิ่งคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9และรัชกาลที่ 10 เสด็จเสด็จมาถึง2ครั้ง

     ได้รับพรและอิ่มบุญ 2 วัด แล้ว ต่อไปวัดที่ 3  เป็นวัดสำคัญที่ทุกคนมาเที่ยววิเศษชัยชาญแล้วพลาดไม่ได้คือวัดนางใน ตั้งอยู่ที่ตำบลศาลเจ้าโรงทอง ซึ่งมีตำนานที่ยาวนานที่สำคัญยิ่งอีแห่งหนึ่ง  วัดนางในเป็นวัดเก่ามีมาแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ชำรุดทรุดโทรมมากต่อมาในสมัยตันรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 3 นางในพระราชวังรวมตัวกันบูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้นมาใหม่สวยงามจึงให้ชื่อว่าวัดนางใน ณ วัดนี้มีเกจิชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เคารพบูชาของคนในท้องถิ่นและต่างท้องถิ่นคือ”หลวงพ่อนุ่ม” เรื่องราวของท่านมีมากมายเกินกว่าจะเขียนในเนื้อที่เพียงน้อยนิดได้ เอาเป็นว่า หลวงพ่อนุ่มเป็นเกจิดังมีชื่อเสียง ใครปรารถนาสิ่งใดมักมาขอพรจากท่านและเมื่อสำเร็จสมตามความปรารถนาก็จะนำน้ำดื่มสีดำมาถวาย ซึ่งหมายถึงน้ำอัดลมสีดำในปัจจุบัน ………..,นั่นแน่!!!!สงสัยล่ะสิ…..ว่าทำไมต้องเป็นน้ำอัดลมสีดำ……ต้องมาเที่ยวและมาพิสูจน์กันสักครั้งท่านจะได้คำตอบ……มาถึงวัดนางในแล้วต้องเข้าไปตลาดศาลเจ้าโรงทอง ตลาดเก่าอายุกว่าร้อยปีและเข้าไปไหว้ศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อยมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานนับร้อยปี ณ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนโพ้นทะเลที่มาพึ่งพระบรมโพธิ์สมภารในพระมหากษัตริย์แต่ครั้งอดีต ได้ทำมาหากินโดยใช้ริมแม่น้ำน้อยสัญจรระหว่างกรุงเทพฯไปยังหัวเมืองต่างๆ ณ บริเวณนี้จึงมีวัฒนธรรมผสมผสาน ปรดสานสัมพันธ์ไทยจีนอย่างแน่นแฟ้น

       ตลาดนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารการกิน ทั้งคาวหวานและผลไม้จากเลือกสวนไร่นาของชาวบ้าน เลือกร้านอาหารอร่อยๆได้มากมาย

      เดินทางวันนี้ได้บุญไหว้พระ3วัดกับอีก1ศาลเจ้า คงเหน็ดเหนื่อยพอสมควร เข้าที่พักในเขตศาลเจ้าโรงทองสักหนึ่งคืน รุ่งเช้าจะมีกิจกรรมต่อ…อีก6วัดไม่ธรรมดาและไม่เหมือนใคร

      ขอแถมเรื่องที่พักหากมาเป็นคณะต้องการพักโฮมสเตย์ที่มีกิจกรรมไว้ต้อนรับตามวิถีชีวิตติดต่อได้ชุมชนบ้านคลองน้ำเชี่ยวโฮมสเตย์. บ้านระเบียงน้ำโฮมสเตย์. หรือต้องการความเป็นส่วนตัวเชิญที่จัมโบ้รีสอร์ท. ซึ่งอยู่บริเวณไกล้ากับตลาดศาลเจ้าโรงทอง

……รุ่งเช้าเราจะพาทุกท่านไปใส่บาตร เก้าวัดบวก…..หมายความว่าอย่างไร สงสัยล่ะสิ…..ติดตามตอนต่อไปนะคะ

                                                                                           โดย…ครูพิม….