Type to search

มุมสุขภาพ

อสม.อ่างทองกว่า 4,000 คนต้อนรับ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

Share

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรม สุขภาพดี วิถีคนอ่างทอง” ณอาคารสำนักรักบ้านเกิด องค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง โดยมีนายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง, นายสุรเชษฐ์ นิ่มกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง, นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค, นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายภราดร นายกรวีย์ ปริศนานันทกุล ส.ส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดอ่างทอง ให้การต้อนรับ

การจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง และกรมควบคุมโรค โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี (สคร.4 สระบุรี) เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ อสม. เป็นสื่อในการนำนโยบายสุขภาพไปสู่ประชาชน และสามารถเป็นกลไกขับเคลื่อนงานด้านสาธารณสุข ตามบทบาทใหม่ที่เพิ่มขึ้นโดยเน้นการสร้างสุขภาพ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เป็นปัญหาในพื้นที่ สร้างการมีส่วนร่วมให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงทั้งทางกายและใจ มีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบาย การพัฒนายกระดับ อสม.ให้เป็น “อสม. หมอประจำบ้าน”รวมทั้งเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้ อสม. ทั่วประเทศ เพราะไม่ใช่เพียงแค่การยกระดับของ อสม. แต่ยังรวมถึงการเป็นกำลังสำคัญในการดูแลด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนได้อย่างใกล้ชิด เข้าถึงและเข้าใจ ที่พร้อมจะเป็นผู้เสียสละได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการที่ อสม. ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ที่ดีกระทรงสารรณสุข จึงได้พัฒนาระบบสวัสดิการและเพิ่มหลักประกันความมั่นคง มอบให้แก่ อสม.และครอบครัวเช่นเดียวกัน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การจัดงานมหกรรม “สุขภาพดี วิถีคนอ่างทอง” อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกว่า 4,000 คน ครอบคลุมทุกอำเภอ จังหวัดอ่างทอง มุ่งหวังให้ อสม. เป็นแกนนำเครือข่ายจัดการปัญหาสุขภาพในครอบครัวชุมชน เฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมไม่ให้เกิดโรคในพื้นที่ ส่งเสริมสุขภาพ ลดโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูงโรคเบาหวาน ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านภูมิปัญญาไทย สมุนไพร เพื่อลดค่าใช่จ่ายของประชาชน สามารถพึ่งตนเองด้านสุขภาพมากขึ้น”